Samsung KB
      
(-)
Product Type Search
   |   Logout   
  Category   Open AllClose All
Icon [TIP][HHP] รู้จักกับเทคโนโลยีกล้องคู่ (Dual-Camera) ( )
  ก่อนปิดกดให้คะแนน content นี้กันหน่อยจ้า
SAVE >>> Icon

รู้จักกับเทคโนโลยีกล้องคู่ (Dual-Camera)

     ปกติแล้วกล้องมือถือตลอดเวลาที่ผ่านมาเกือบสิบปีจะใช้งานกล้องเพียงตัวเดียวมาโดยตลอด แต่เมื่อนักพัฒนาเห็นว่าการถ่ายภาพด้วยกล้องเดี่ยวนั้นยังให้ภาพที่ไม่สวยงามเท่ากับกล้องโปร DSLR จึงพัฒนาเทคโนโลยีกล้องคู่เพื่อเสริมการใช้งานในจุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ผู้คนส่วนใหญ่ชื่นชอบการถ่ายภาพเพื่อนๆ หรือภาพ Selfie กันมากขึ้น ก็ยิ่งต้องพัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพให้ดียิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน โดยปกติแล้ว กล้องคู่บนสมาร์ทโฟนทั่วไปจะใช้งานกล้องตัวแรกเป็นกล้องหลัก โดยทำหน้าที่เป็นกล้องที่เก็บภาพที่อยู่ตรงหน้า ส่วนกล้องตัวที่ 2 มีหน้าที่เก็บรายละเอียดเสริม เช่น การเบลอฉากหลัง,การเก็บรายละเอียดแสงเงา หรือแม้แต่การซูมภาพ ซึ่งหลังจากการเก็บภาพด้วยกล้องทั้งสองตัวแล้วซอฟต์แวร์ก็จะนำภาพจากกล้องมารวมกันเป็นภาพๆ เดียว และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น ภาพมีการเบลอฉากหลัง หรือภาพมีรายละเอียดแสงเงาที่เข้มขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนบางรุ่นอาจเพิ่มเติมประสิทธิภาพของกล้องด้วยการแยกใช้งานเซ็นเซอร์รับภาพสำหรับกล้องสองตัว เพื่อเก็บรายละเอียดของภาพได้ดีที่สุดด้วย

 กล้องคู่กับการสร้างฉากหลังเบลอ หรือ Bokeh

     การทำฉากหลังเบลอ หรือการสร้างโบเก้ (Bokeh) นั้น จะเกิดขึ้นเป็นปกติกับกล้องถ่ายภาพทั่วไปเมื่อใช้ขนาดรูรับแสงกว้าง และระยะของเลนส์ + ตัวแบบห่างกันอย่างเหมาะสม โดยจุดที่เบลอนั้นมักเป็นฉากหลังที่ไม่อยู่ในระยะโฟกัส (เพราะโฟกัสที่วัตถุ หรือคน) ซึ่งการสร้างฉากหลังเบลอ หรือโบเก้ถือเป็นเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของการถ่ายภาพ ซึ่งกล้องถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนยังไม่สามารถทำได้เทียบเท่ากล้องใหญ่ เพราะพื้นที่สำหรับการขยับชิ้นเลนส์ และเซ็นเซอร์รับภาพที่ใช้งานบนสมาร์ทโฟนมีขนาดเล็กเกินไป และไม่สามารถเบลอฉากหลัง หรือสร้างโบเก้ได้ตามธรรมชาติของกล้องถ่ายภาพ ดังนั้น กล้องตัวที่สองบนสมาร์ทโฟนจึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งานได้ด้านนี้โดยเฉพาะเลยก็ว่าได้

     สังเกตได้ว่าสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ที่มีการใช้งานกล้องคู่ มักจะชูจุดขายในเรื่องการถ่ายภาพแบบ หน้าชัด-หลังเบลอ เกือบทั้งสิ้น โดยลักษณะการทำงานของกล้องคู่ในโหมด Portrait หรือโหมด Bokeh ก็คือกล้องตัวแรก หรือกล้องหลักจะจับโฟกัสที่วัตถุ หรือตัวแบบ ส่วนกล้องตัวที่สองจะเก็บภาพในลักษณะแบบเบลอเกือบทั้งหมด จากนั้นซอฟต์แวร์จะทำการประมวลผลว่าระยะความห่างของฉากหลังกับวัตถุอยู่ใกล้-ไกลกันมากเพียงใด แล้วปรับความเบลอให้ดูเป็นธรรมชาติ จากนั้นก็นำภาพทั้งสองมารวมกัน และกลายเป็นภาพถ่ายแบบ หน้าชัด-หลังเบลอ ที่คล้ายกับการถ่ายด้วยกล้องใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากใช้สมาร์ทโฟนกล้องเดี่ยวถ่ายก็ต้องถ่ายถึงสองรอบ และเมื่อเราขยับกล้องออกจากจุดเดิม แน่นอนว่าทิศทางแสง, จุดโฟกัส หรือระยะต่างๆ ก็จะเพี้ยนไป และเราไม่สามารถจะถ่ายภาพแบบเดิมในจุดเดิมได้อีก ดังนั้น การวางเลนส์กล้องตัวที่สองไว้คู่กล้องตัวแรกโดยห่างกันไม่ถึง 1 เซ็นติเมตร แล้วกดชัตเตอร์พร้อมกันก็จะสามารถเก็บรายละเอียดภาพในมุมเดียวกันได้ดีกว่ามาก แล้วนำมารวมกันในภายหลัง

     แต่การถ่ายภาพด้วย Portrait Mode หรือโหมดโบเก้ (เรียกต่างกันออกไปในแต่ละรุ่น) ด้วยการใช้กล้องคู่ร่วมกับการประมวลผลจากซอฟต์แวร์ก็ยังมีจุดรบกวนเล็กๆ บางอย่าง นั่นก็คือ บางครั้งภาพที่ถ่ายออกมา ขอบของตัวแบบ หรือวัตถุ จะมีการเบลอไปด้วย ทำให้ขอบของ object ที่อยู่ในโฟกัสไม่คมชัด ซึ่งเกิดจากการที่ซอฟต์แวร์ของสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นๆ คิดว่าขอบของ object เป็นฉากหลัง จึงถูกทำให้เบลอ ซึ่งในจุดนี้ยังเป็นจุดที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติมสำหรับส่วนของซอฟต์แวร์ที่ประมวลผลภาพ

 

 กล้องคู่กับการซูมภาพแบบ Lossless

     หากเราถ่ายภาพด้วยกล้องโปร เวลาเราจะซูมภาพ เราก็เพียงแค่หมุนกระบอกเลนส์ให้ชิ้นเลนส์แยกห่างออกจากกันเท่านั้น และสามารถกดชัตเตอร์ได้ทันที แต่สำหรับกล้องบนสมาร์ทโฟนไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะชิ้นเลนส์ของกล้องไม่สามารถขยับได้ ดังนั้น การซูมภาพแบบปกติจึงต้องใช้ซอฟต์แวร์เข้าช่วย หรือที่เรียกว่า Digital Zoom ซึ่งการซูมภาพเช่นนี้ ยิ่งซูมมากเท่าไหร่ ภาพก็ยิ่งเสียรายละเอียด และความคมชัดมากขึ้น เพราะการซูมภาพเช่นนี้ไม่ใช่การซูมแบบเดียวกับกล้องโปร แต่เป็นเพียงการขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นเท่านั้น ดังนั้น เมื่อกล้องเดี่ยวไม่สามารถซูมภาพแบบไม่สูญเสียรายละเอียดได้ กล้องคู่จึงต้องทำหน้าที่นี้แทน

     กล้องคู่บนสมาร์ทโฟนบางรุ่นจะใช้งานเลนส์ตัวที่สองเป็นเลนส์ Telephoto ซึ่งมีระยะการรับภาพที่ไกลขึ้น เมื่อนำมารวมกับเลนส์กล้องตัวหลัก (ที่ส่วนมากมักเป็นเลนส์ Wide หรือระยะ Normal เพื่อถ่ายภาพได้ค่อนข้างกว้าง) และบวกกับการสลับการรับภาพจากเลนส์คนละตัวด้วยซอฟต์แวร์ก็ทำให้กล้องคู่ตัวนั้นสามารถซูมภาพได้แบบไม่เสียรายละเอียดแล้ว แต่ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีการซูมภาพด้วยกล้องคู่แบบLossless นั้นยังสามารถทำได้จริงแค่ระดับ 2X เท่านั้น แต่คาดว่าในอนาคตน่าจะมีการพัฒนาให้ซูมได้ไกลขึ้น

 

 กล้องคู่กับเลนส์มุมกว้าง (Wide Angle)

     แน่นอนว่าเมื่อมีแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนบางรุ่นใส่เลนส์รับภาพแบบ Telephoto เข้าไปเป็นเลนส์กล้องตัวที่สองแล้ว ก็ต้องมีผู้นำเอาเลนส์มุมกว้าง (Wide) มาใช้เป็นเลนส์ตัวที่สองเช่นเดียวกัน โดยเลนส์รับภาพมุมกว้างจะเหมาะการเก็บภาพในสถานที่ที่กว้างใหญ่ หรือเก็บวิวทิวทัศน์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งเลนส์ Wide จะเหมาะสำหรับการถ่ายภาพแบบ Landscape หรือแนวสถาปัตยกรรมที่มีความใหญ่โตโอ่อ่า เพราะภาพที่ได้จะสื่อถึงความกว้าง หรือความใหญ่โตได้เป็นอย่างดี และเช่นเดียวกันกับกล้องที่มีเลนส์รับภาพระยะไกล การใช้งานเลนส์ Wide ตัวสมาร์ทโฟนเองก็ต้องมีการสลับการรับภาพจากเลนส์กล้องด้วยซอฟต์แวร์เช่นกัน แต่การใช้เลนส์ Wide มักไม่ค่อยมีปัญหาอะไร เพราะไม่ต้องรวมภาพเหมือนการทำ Bokeh อีกทั้งการถ่ายมุมกว้างจะไม่เน้นการซูมไปเฉพาะจุด ทำให้ไม่สูญเสียรายละเอียดของภาพด้วย
 

 กล้องคู่กับนวัตกรรมการรวมภาพให้มีคุณภาพสูงขึ้น

     นอกจากเทคโนโลยีกล้องคู่จะมีส่วนช่วยในเรื่องมุมมองการรับภาพ หรือการสร้างสรรค์ความสวยงามของภาพได้แล้ว แบรนด์ผู้ผลิตบางรายยังเพิ่มประสิทธิภาพของกล้องด้วยการแยกใช้งานเซ็นเซอร์รับภาพสำหรับกล้องทั้งสองตัว โดยส่วนมากเซ็นเซอร์ตัวแรกมักใช้สำหรับการเก็บภาพสี (RGB) ขณะที่เซ็นเซอร์ตัวที่สองใช้สำหรับการเก็บแสงเงา แล้วนำภาพจากทั้งสองเซ็นเซอร์มารวมกัน ทำให้ได้ภาพสีที่คมชัด มี contrast และแสงเงาที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นข้อดี และทำให้ภาพถ่ายมีความสวยงามขึ้นด้วยอีกทั้งยังช่วยในเรื่องการถ่ายภาพในที่แสงน้อย เพราะกล้องตัวที่สองจะเก็บเฉพาะแสงเพียงอย่างเดียว ทำให้ภาพที่ได้มีความสว่างมากขึ้น

     แต่ถ้าลองคิดในมุมกลับกัน การใช้งานเซ็นเซอร์รับภาพจำนวนสองตัว เท่ากับว่าเซ็นเซอร์นั้นจะมีขนาดเล็กลง ทำให้คุณภาพของภาพถ่ายลดลงไปด้วย ซึ่งแตกต่างกับสมาร์ทโฟนกล้องเดี่ยวที่สามารถใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่เท่ากับเซ็นเซอร์สองตัวได้อย่างสบายๆ และเป็นปัจจัยหลักที่ให้คุณภาพของภาพถ่ายที่ดีกว่าด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วการเพิ่มจำนวนกล้อง หรือเซ็นเซอร์นั้นไม่ได้ช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพถ่ายแต่อย่างใดเพราะคุณภาพของภาพถ่ายนั้นอยู่ที่การใช้งานเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่เท่านั้นจึงจะสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ครบถ้วน และมีความคมชัดมากกว่า เช่นเดียวกับกล้องโปรที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่นั่นเอง


// อัพเดทข้อมูลวันที่ 12 มี.ค. 61 อ้างอิงข้อมูลจาก : http://www.thaimobilecenter.com/article-2560/smartphone-with-single-camera-and-dual-

camera-which-one-is-better.asp



Keyword : กล้องคู่ Dual-Camera Dual Camera dual-camera dual camera ใช้งานกล้องคู่ หลังการทำงานกล้องคู่ หลักการกล้องคู่
Created By : View : 91 Modified By : -
Created Date : 2018-03-12 17:36:21 Modified Date : -


True Touch © 2011    |   Logout DB :kbsamsung · Version :13.3.22