ในสมัยนี้สมาร์ทโฟน 2 ซิม เริ่มมีความนิยมมากขึ้น แต่ปัจจุบันสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ที่รองรับ 2 ซิมจะเป็นแบบ dual-standby ที่สามารถใช้งานเครือข่าย 3G/4G ได้เพียงแค่ซิมหลักอย่างเดียวเท่านั้น ทำให้มีปัญหาสำหรับคนที่ใช้งานซิมที่มีแต่เครือข่าย 3G เป็นซิมรองจะไม่สามารถใช้งานได้ แต่ว่าในตอนนี้ก็เริ่มมีสมาร์ทโฟนบางรุ่นที่รองรับเครือข่าย 3G ในซิมที่สองแล้วด้วย ซึ่งเทคโนโลยีการรองรับการใช้งานสองซิมนั่นมีชื่อเรียกว่า Full NetCom 3.0 ครับ

     หลายๆ คนอาจจะได้เห็นข่าวเปิดตัวของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ แบรนด์จีนว่ามาพร้อมกับ Full NetCom แต่เชื่อว่าก็คงจะมีคนสงสัยว่า Full NetCom นั้นคืออะไร และสำคัญขนาดไหน แถมตอนนี้ก็มี Full NetCom 3.0 แล้วด้วย เอาเป็นว่าเรามาทำความรู้จักกับ Full NetCom กันดีกว่าครับ

     ต้องบอกก่อนว่า Full NetCom นั้นมีชื่อเต็มคือ Full China NetCom หรือบางทีก็เรียก Full CNC โดยเป็นมาตรฐานการใช้งานระบบ dual SIM ของประเทศจีน จึงอาจจะไม่ใช่มาตรฐานหรือชื่อที่ใช่เรียกกันทั่วไปในต่างประเทศ

เรามาดูประวัติคร่าวๆ ของ Full NetCom กันก่อนดีกว่า ว่ามันมีมาแล้วกี่เวอร์ชั่น และแต่ละเวอร์ชั่นต่างกันอย่างไร

 Full NetCom 1.0

มาตรฐานของสมาร์ทโฟนที่ใช้งาน 2 ซิมในยุคแรกนั้นเรียกว่า Full NetCom 1.0 ซึ่งเป็นการทำงานแบบ dual-standby คือ ซิมแรกนั้นจะสามารถใช้งาน 3G/4G ได้ และซิมที่สองจะรองรับเพียงแค่ 2G หรือใช้เป็น voice ได้เพียงอย่างเดียว

 Full NetCom 2.0

ยุดถัดมาก็คือยุคของ Full NetCom 2.0 ซึ่งเป็นยุคที่เราเห็นใช้งานกันในปัจจุบันเป็นจำนวนมาก โดยการทำงานของ Full NetCom 2.0 นั้นจะคล้ายกับ Full NetCom 1.0 ที่เป็น dual-standy เหมือนกัน แต่ว่าจะแตกต่างกันตรงที่ Full NetCom 2.0 สามารถเลือกได้ว่าจะให้ ซิมที่หนึ่ง หรือ ซิมที่สอง เชื่อมต่อกับ 3G/4G ส่วนอีกซิมนึงก็จะต่อแบบ 2G ได้เพียงอย่างเดียว เรียกว่าสามารถสลับให้ช่องไหนเกาะ 3G/4G ก็ได้ และอีกช่องหนึ่งก็จะกลายเป็น 2G ไป

 Full NetCom 3.0

แต่ว่าเมื่อไม่นานมานี้ Xiaomi ได้ทำการเปิดตัว Mi 5 ซึ่งมาพร้อมกับ Full NetCom 3.0 ที่เปลี่ยนจาก dual-standby มาเป็น dual-active โดยซิมที่หนึ่งนั่นจะต่อกับ 3G/4G ได้แบบปกติ แต่จุดที่อัพเกรดขึ้นมาก็คือ ซิมที่สองที่สามารถทำเชื่อมต่อกับ 3G ได้ (สูงสุดที่ 3G) ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้ง data และ voice ทั้ง 2 ซิมเลยนั่นเองครับ

การมาของ Full NetCom 3.0 นั้นเหมาะมากกับที่ใช้ซิม My หรือว่า ซิม Penguin เป็นซิมที่สอง เพราะว่าทั้ง 2 เครือข่ายนี้ไม่มีระบบ 2G และต่อไปเราก็จะเห็นผู้ให้บริการเครือข่ายเจ้าอื่นๆ หันมาพัฒนาระบบ 3G ขึ้นไปกันมากขึ้น ส่วน 2G นั้นก็อาจจะค่อยๆ หายไปในภายภาคหน้าหรือไม่ก็เหลือความถี่ให้ใช้น้อยมาก

// อัพเดทข้อมูลวันที่ 12 มี.ค. 61 อ้างอิงข้อมูลจากhttps://droidsans.com/full-netcom-3-0-technology/