เนื่องจากตอนนี้มีการแจ้งอาการที่เข้าไปแล้ว ไม่พบอาการเสียเข้ามาค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่เป็นอาการ แอร์ไม่เย็น แอร์มีน้ำหยด ซึ่งเมื่อช่างเข้าไปแล้วพบว่าเครื่องไม่ได้เสีย แต่เป็นจากเครื่องสกปรก ลูกค้าไม่เคยล้างหรือทำความสะอาดเครื่องมาก่อน - ดังนั้นให้สอบถามตามสคิปด้านล่าง - ข้อสำคัญ : ให้แจ้งลูกค้าว่า หากช่างเข้าไปเช็คแล้ว ตัวเครื่องไม่ได้เสีย แต่เป็นจาก เครื่องสกปรก,การใช้งานของลูกค้าหรืออย่างอื่นที่ไม่ใช่มาจากตัวเครื่อง จะมีค่าใช้จ่ายในการเข้าไปแก้ไขอาการเสีย ให้แจ้งลูกค้าให้รับทราบด้วย 1. เครื่องไม่ทำความเย็น = แนะนำ **ไม่เย็นมี 2 ลักษณะ - คือไม่เย็นเลย : อาการไม่เย็นเลย เป็นไปได้ทั้งเครื่องเสีย / ใช้โหมดผิด / และแอร์สกปรก - คือเย็นน้อย : อาการเย็นน้อย ส่วนใหญ่ จะเกิดจากอาการเครื่องไม่สะอาด / สกปรก 1.1 ให้ปรับโหมด cool อุุณหภูมิ 20 องศา (ทำสอบความเย็นว่ามีความเย็นหรือไม่) หากไม่เย็น 1.2 ให้เลือกโหมด เทอร์โบ (Turbo) หรือ Fast/Comfort (เพื่อสั่งให้คอมเพลสเซอร์ทำงานทันที และลองสังเกตุความเย็น) หากไม่เย็น 1.3 สอบการใช้งานว่าใช้งานมาเป็นระยะเวลานานเท่าใด และล้างเครื่องปรับอากาศล่าสุดเมื่อไร (ปกติควรล้างเครื่องปรับอากาศประมาณ 6 เดือนต่อ 1 ครั้ง) หากยังไม่เคยล้างเครื่องปรับอากาศมาก่อนเลย แนะนำให้ลูกค้าล้างเครื่องปรับอากาศก่อน (การล้างเครื่องปรับอากาศอยู่นอกเงื่อนไขการรับประกัน เพราะฉนั้นจะมีค่าบริการ ถึงแม้ว่าเครื่องจะอยู่ในประกันก็ตาม) 1.3.1 การล้างเครื่องปรับอากาศสามารถแจ้งผ่านศูนย์ Call center ได้ เฉพาะกรุงเทพและปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดต้องลองสอบถามกับศูนย์บริการก่อน 1.3.2 แจ้งล้างเครื่องปรับอากาศกับร้านที่รับล้างเครื่องปรับอากาศทั่ว ๆ ไปได้ โดยการล้างเครื่องปรับอากาศไม่ทำให้เครื่องปรับอากาศอยู่นอกประกัน (ยังรับประกันต่อเช่นเดิม) 1.3.3 ให้ลองสอบถามลูกค้าดูว่าตอนที่ซื้อเครื่องมาจากตัวแทนจำหน่าย มีบริการล้างเครื่องปรับอากาศหรือไม่ หากมีให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายก่อน (กรณีที่ซื้อในระยะเวลา 1 ปี) 1.4 หากลูกค้ามีการล้างเครื่องปรับอากาศมาแล้ว ให้สอบถามว่าถอดตัวกรองฝุ่นมาทำความสะอาดเมื่อไร โดยปกติแล้วควรทำความสะอาดทุก ๆ 2 สัปดาห์ หากยังไม่ได้ทำความสะอาด แนะนำให้ทำความสะอาดก่อน 1.5 เพิ่มเติม ให้สอบถามขนาดของห้อง กับ ขนาดของเครื่องปรับอากาศว่าเหมาะสมกันหรือไม่ (อาจจะต้องปรึกษากับทางพี่ PC) 1.6 หากเช็คตามรายละเอียดดังกล่าวข้างต้น "หมดทุกข้อแล้ว" ยังแก้ไขอาการไม่ได้ ให้แจ้งซ่อมตามปกติ 
2. ตัวเครื่องด้านในมีน้ำหยด ปัญหานี้อาจจะเกิดจากสิ่งสกปรกที่อุดตันแผงฟิลเตอร์หรือแผงครีบฟิลของคอยล์เย็น ทำให้แอร์ไม่สามารถดึงลมเข้าและเป่าลมออกได้เต็มที่ ความเย็นที่ออกมาจากตัวคอยล์เย็นไม่สามารถพัดออกมาได้เต็มที่ ทำให้เกิดการควบตัวกับความชื้นในอากาศกลายเป็นน้ำแข็งเกาะที่คอยล์เย็น เมื่อน้ำแข็งละลาย อาจจะหยดไม่ลงถาดน้ำทิ้งหรือระบายออกทางถาดน้ำทิ้งไม่ทัน ทำให้มีน้ำหยดออกมา อาจจะสร้างความเสียหายให้กับเอกสารหรือเฟอร์นิเจอร์ที่วางอยู่ใต้คอยล์เย็น หรือถ้าคุณนอนใต้คอยล์เย็น มันก็อาจจะหยดใส่หัวคุณได้ แก้ไข : แนะนำให้ลูกค้าถอดตัวกรองฝุ่น (ฟิลเตอร์)ของตัวเครื่องออกมาทำความสะอาด ด้วยการนำไปล้างน้ำและเอาฝุ่นละอองออก หลังจากนั้นตากในที่ ๆ มีอากาศถ่ายเทสะดวก หากอาการยังไม่หายและแนะนำให้ล้างเครื่องปรับอากาศ โดยให้ช่างมาล้างเครื่องปรับอากาศให้ 
3. น้ำล้นและไหลออกมาด้านหน้าเครื่อง อาการนี้เกิดได้จาก ถ้าไม่ได้ใส่ใจล้างแอร์นานๆ อาจจะมีเมือก เกิดขึ้นในท่อน้ำทิ้ง หรือรางระบายน้ำทิ้งด้านในตัวเครื่อง ทำให้ระบบท่อน้ำทิ้งอุดตัน แก้ไข : แนะนำให้เรียกช่างมาล้างเครื่องปรับอากาศ  3. ลมแอร์ออกมาเบา,ลมแอร์ออกมาไม่เต็มที่ ปัญหานี้อาจจะเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ไม่ได้ล้างแอร์เป็นเวลานาน เพราะฝุ่นละอองที่เกาะจับตรงบริเวณแผงฟิลเตอร์หรือแผงครีบฟิลของคอยล์เย็น เมื่อสะสมเป็นเวลานานฝุ่นละออกพวกนี้จะหนาขึ้นเรื่อยๆจนอุดตันทางเข้าของลม ในที่สุด ทำให้แอร์ไม่สามรถดึงลมเข้าและเป่าลมออกได้เต็มที่ และจะเกิดปัญหาแอร์เป็นน้ำแข็งและน้ำหยดในที่สุด รวมทั้งในส่วนใบพัดลมใพรงกระรอก หากมีฝุ่นจับที่ใบพัดจำนวนมาก ก็จะเป็นอุปสรรค์ในการพัดพาความเย็นเช่นกัน แก้ไข : ถอดตัวกรองฝุ่่น (ฟิลเตอร์) มาทำความสะอาด,ทำความสะอาดด้านหน้าเครื่อง เผื่อบางครั้งจะมีสิ่งสกปรกอุดตัน หรือติดต่อช่างมาล้างแอร์ 
4. แอร์ทำความเย็นไม่เต็มที่ กรณีนี้เป็นกรณีที่แอร์ทำความเย็นออกมาได้ไม่เต็มที่เนื่องจากมีสิ่งสกปรก จับแน่นที่ครีบระบายความร้อนของตัวคอนเด็นซิ่งยูนิด(คอยล์ร้อน) สิ่งสกปรกที่จับแน่น เปรียบเสมือนสิ่งกีดขวาง ที่คอยขวางไม่ให้แอร์ระบายความร้อนได้เต็มที่ น้ำยาแอร์เมื่อไม่ได้รับการระบายความร้อนที่ดี ก็จะเปลี่ยนสถานะได้ไม่หมด ทำให้ส่งผลต่อการเกิดความเย็นที่ทำไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ ในขณะที่คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้อุณหภูมิห้องตามที่กำหนด แต่การระบายความร้อนได้ไม่ดี ทำให้การเกิดความเย็นทำได้ไม่เต็มที่ แอร์เย็นช้า เปลืองไฟ และคอมเพรสเซอร์ทำงานหนักส่งผลต่อประสิทธิภาพระยะยาวและอายุการใช้งานที่ สั้นลง แก้ไข : ถอดตัวกรองฝุ่่น (ฟิลเตอร์) มาทำความสะอาด,ทำความสะอาดด้านหน้าเครื่อง เผื่อบางครั้งจะมีสิ่งสกปรกอุดตัน หรือติดต่อช่างมาล้างแอร์ 5. แอร์มีกลิ่นเหม็นออกมาจากตัวเครื่อง อาการนี้อาจจะเกิดจาก แอร์ที่ไม่ได้ล้างทำความสะอาดเป็นระยะเวลานาน หรือเกิดจากการใช้งานของลูกค้าที่มีการทานอาหารที่มีกลิ่นแรง สูบบุหรี่ กลิ่นน้ำหอม ฯลฯ หรืออื่น ๆ ใดที่ทำให้เกิดกลิ่นภายในห้อง อากาศและกลิ่นเหล่านี้ก็จะถูกดูดหมุนเวียนเข้าไปและติดอยู่ที่ตัวกรองฝุ่่น หรือแผงคอยล์เย็นภายในเครื่อง เป็นระยะเวลานานเข้า หากไม่ได้ทำความสะอาดก็ก่อให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และสาเหตุของโรคในระบบทางเดินหายใจ แก้ไข : ถอดตัวกรองฝุ่่น (ฟิลเตอร์) มาล้างทำความสะอาด และเปิดห้องให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อช่วยให้มีการหมุนเวียนของอากาศ พร้อมทั้งเปิดเครื่องปรับอากาศในโหมด Fan ประมาณ 1-2 ชม. 6. ชุดคอยล์ร้อนด้านนอกบ้านมีน้ำหยด 6.1 น้ำหยดออกมาจากเซอร์วิส วาล์ว อาการนี้เป็นปกติของการทำงานของตัวเครื่อง เนื่องจากด้านในเซอร์วิส วาล์ว จะมีสารทำความเย็นไหลผ่านอยู่และทำให้เกิดหยดน้ำเกาะและหยดออกมาจากบริเวณเซอร์วิส วาล์ว คล้ายกับกรณีที่เราน้ำแก้วน้ำใส่น้ำเย็น แล้วนำไปวางไว้ จะมีน้ำเกาะที่บริเวณรอบนอกของแก้ว ซึ่งเกิดจากการควบแน่นของการทำงานของเครื่อง ไม่ใช่น้ำยาที่รั่วออกมา  6.2 น้ำหยดที่ด้านใต้ตัวคอล์ยร้อน อาการนี้เกิดจากการควบแน่นกันของระบบการทำงาน จะทำให้มีน้ำไหลออกมาจากตัวเครื่องซึ่งเป็นอาการปกติ ไม่ใช่อาการเสียแต่อย่างใด 7. มีน้ำแข็งเกาะที่ เซอร์วิส วาล์ว อาจจะเกิดจากน้ำยาในระบบขาดใน ซึ่งโดยปกติตรงที่เป็นเซอร์วิส วาล์ว จะมีแค่น้ำหยด แต่หากมีน้ำแข็งเกาะ ให้ทำเรื่องแจ้งซ่อม *** ซึ่งปัญหาเบื้องต้นสามารถแก้ใขได้โดยการใส่ใจดูแลล้างทำความสะอาดแอร์ สำหรับแอร์ที่ใช้งานเป็นประจำ ควรล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง** > > |
[เครื่องปรับอากาศ] แอร์ไม่เย็น,แอร์มีน้ำหยด,แอร์มีกลิ่น,แอร์ไม่มีลม,แอร์พัดลมเบา ( )