ความรู้เกี่ยวกับหน้าจอทัชสกรีนมือถือหน้าจอของระบบทัชสกรีนที่ใช้ในมือถือมีอยู่ 2 รูปแบบหลักๆ ครับคือ Resistive กับ Capacitive ส่วนแบบ Infrared, Acoustic wave นั้นจะถูกใช้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์มากกว่า อันนี้จะไม่ขอพูดถึ่งครับ
Resistive TouchScreen หน้าจอทัชสกรีนแบบ Resistive หรือเรียกกันว่าจอนิ่ม เป็นหน้าจอรูปแบบแรกๆ ที่ถูกใช้มาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ยันปัจจุบันนี้ โดย Touch Screen แบบ Resistive จะประกอบด้วย เลเยอร์ด้านบนที่ยืดหยุ่นและเลเยอร์ด้านล่างที่อยู่ บนพื้นแข็งคั่น ระหว่าง 2 เลเยอร์ด้วยเม็ดฉนวนซึ่งทำหน้าที่แยกไม่ให้ด้านในของ 2 เลเยอร์สัมผัสกันเำพราะด้านในของ 2 เลเยอร์นี้จะเคลือบด้วยสารตัวนำไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติโปร่งแสงในเวลาจะมี การปล่อยกระิแสที่เลเยอร์สารตัวนำ และเมื่อคุณกดที่ Touch Screen จะทำให้วงจร 2 เลเยอร์ต่อถึงกัน จากนั้นวงจรควบคุมก็จะคำนวณ ค่ากระแสไฟฟ้า ซึ่งจะแตกต่างไปตามตำแหน่งที่สัมผัส เมื่อคำนาณค่ากระแสตามแนว ตั้งและแนวนอนก็จะำได้ตำแหน่งที่สัมผัสบนหน้าจอ จุดเด่นหลักๆ ของหน้าจอประเภทนี้ืคือ ต้นทุนสุดแสนจะถูก กินไฟน้อย ความแม่นยําในการทัชสูง และทนทานต่อฝุ่น ความชื้นได้ดี ใช้อะไรจิ้มจอก็ได้ ส่วนข้อเสียหลักๆ คือ จอไม่ค่อยทนเท่าไหร่ และแสดงผลได้ไม่ดีเท่าจอ Capacitive Capacitive TouchScreen ตอนนี้เทรนด์หน้าจอแข็ง หรือ Capacitive ก็มาแรงเช่นเดียวกัน เพราะปกติก็มีใช้บนไอโฟนอยู่แล้ว แรกๆ ยังมีราคาต้นทุนที่แพงเอาเรื่องอยู่ แต่ตอนนี้ถือว่าไม่แพงแล้วครับ เพราะซัมซุงสามารถติดตั้งจอประเภทนี้ในรุ่นถูกๆ อย่าง Samsung One หรือ Candy ได้ โครงสร้างของ TouchScreen แบบ Capacitive นั้นประกอบด้วยแผ่นแก้วเึคลือบผิวด้วยอ็็อกไซด์ของโลหะแบบโปร่งแสง เมื่อถึงเวลาการใช้งานก็จะมีการป้อนแรงดันไฟฟ้าที่มุมทั้วสี่ของ Touch Screen เพื่อสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ความเข้มสม่ำเสมอตลอดทั่ว ทั้งแผ่น ผู้ใช้จะต้องใช้นิ้วมือเปล่าๆสัมผัสที่จอเพื่อดึงกระแสจากแต่ละมุมที่ให้แรง ดันตกลง จากนั้นแผงวงจรควบคุมก็จะคำนวณเป็นตำ้เหน่งที่สัมผัสได้ ข้อดีหลักๆ ของมันก็คือ แสดงผลได้คมชัดมากสุดๆ เพราะแสงสามารถส่องออกมาได้เต็มที่ ทนทานมาก เพราะส่วนใหญ่มือถือประเภทนี้จะใช้จอนอกเป็นกระจกอยู่แล้ว และจะใช้ Tempered Glass ในมือถือรุ่นสูงๆ ยิ่งทําให้ทนทานหนักขึ้นไปอีก ตอบสนองการสัมผัสได้เร็วสะใจ รองรับระบบมัลติทัชเต็มรูปแบบ แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกันคือ ต้องใช้นิ้วจิ้มเท่านั้นนะครับ ใช้เล็บ ปากกาจิ้มไม่ได้ ** แต่เดียวนี้มีปากาแบบพิเศษ ที่สามารถใช้งานกับจอประเถทนี้ได้แล้วครับ ชื่อปากกา C-type (ด้านบนคือ จอแบบ S.AMOLED ด้านล่างคือ จอแบบ TFT) ส่วนชนิดหน้าจอนั้น ส่วนมากจะใช้ TFT-LCD ธรรมดา แต่ในขณะนี้ ซัมซุง ได้ผลักดันหน้าจอ AMOLED ลงมือถือทัชเรื่อยๆ (แถมยังเปิดตัว Super AMOLED ออกมาอีกตะหาก) ซึ่งหน้าจอประเภทนี้จะคมชัดมาก และสามารถใช้งานกลางแดดได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะ Super AMOLED ที่ชูเป็นหนึ่งจุดเด่นของหน้าจอประเภทนี้เช่นเดียวกัน ** ปัจจุปันทาง Samsung พัฒนาไปถึ่งจอแบบ Super Amoled HD แล้วเป็นจอที่ให้ความละเอียดสูง มัลติทัชคืออะไร มัลติทัชเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีภาคต่อของทัชสกรีนครับ จะแปลตรงตัวเลยก็คือ การสัมผัสที่มากกว่า 1 จุด ถูกพัฒนามานานไม่แพ้กับทัชสกรีนเช่นเดียวกัน แต่ได้ถูกเอามาใช้จริงๆ จังๆ เมื่อแอปเปิ้ลได้นํามันมาใช้บนไอโฟนนี้เอง ผู้ใช้สามารถบังคับหน้าจอได้โดยใช้ 2 นิ้ว (หรือมากกว่านั้น) เพื่อสั่งงานในรูปแบบต่างๆ เช่น ซูมเข้าออกเว็บเพจ หรือรูปภาพ, เล่นเกม ฯลฯ ส่วนการทํางานจะต้องอาศัยทั้ง HW-SW ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ส่วนใหญ่ระบบมัลติทัชจะมีใช้งานบนมือถือทัชสกรีนแบบ Capacitive ส่วน Resistive มีเทคโนโลยีที่จะทําให้มันใช้งานมัลติทัชได้แล้ว แต่ยังไม่มีใช้อย่างเป็นทางการ หน้าจอทัชในอนาคต มีคํายืนยันของเหล่าผู้ผลิตหน้าจอทั้งหลายแล้วว่า "จะมีหน้าจอแบบ Flexible หรือยืดหยุ่นได้ออกมาแน่นอน" ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ซึ่งจะทําให้มือถือ ไม่จําเป็นต้องเป็นทรงแ่ท่งแข็งๆ อีกต่อไปแล้ว มันจะสามารถ "ม้วนเป็นรูปทรงต่างๆ ได้" และแน่นอนว่า จากการม้วนเป็นรูปทรงต่างๆ จะเป็นการสั่งการมือถือไปในตัวด้วย เช่น ม้วนเป็นรูปถ้วย จะเป็นการค้นหาร้านอาหารใกล้เคียง เป็นต้น อนาคตของมือถือทัชสกรีน คิดว่าหลายท่านคงได้ดูภาพยนตร์แนวๆ วิทยาศาสตร์กันไม่มากก็น้อย อย่างในเรื่อง 2012 จะเห็นว่าเทคโนโลยีทันสมัยมาก และแน่นอนว่า อนาคตจะต้องมีแบบนั้นแน่นอน ระบบทัชสกรีนในปัจจุบันถือว่าพัฒนารวดเร็วมากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จากที่ไม่ได้รับความนิยม กลายเป็นสิ่งที่ปกติไปแล้วสําหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป หลายค่ายต่างคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการสัมผัส โดยเฉพาะระบบมัลติทัช ที่เดี๋ยวนี้แทบจะสั่งงานได้สาระพัดรูปแบบ ดังนั้น ระบบทัชสกรีนจึงเป็นระบบที่จะเข้ามาทดแทนปุ่มกดแบบเดิมๆ ได้ในอนาคต ไม่เฉพาะในมือถือ แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดก็ต้องมีระบบทัชสกรีนเช่นเดียวกันครับ มือถือทัชสกรีนเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานด้านต่างๆ ได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะด้านบันเทิง ท่องโลกออนไลน์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะพัฒนาควบคู่กันไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลาที่ผ่านไป ทั้งนี้ เราต้องดูตัวเองด้วยว่า มันเหมาะกับการใช้งานเรามั้ย เพราะบางครั้งมือถือที่เราซื้อมานั้น อาจจะไม่ใช่ตัวที่ตอบโจทย์เราก็เป็นได้ .... บทความโดย : papayatop
ที่มา : i3.in.th
|