One uiก็คือ user interface แบบใหม่ที่ได้มีการพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้แทน user interface อันเก่าที่ Samsung ได้ใช้มาอย่างยาวนาน นั้นก็คือ Samsung Experience

โดย One ui ที่ทาง Samsung ได้มีพัฒนาขึ้นนี้ ก็ได้มีการปรับเปลี่ยน สิ่งต่างๆ ไปค่อยข้างที่จะแตกต่างค่อนข้างเยอะ ถ้าเปรียบเทียบกับ Samsung Experience ทั้งการแสดงผล ลักษณะของตัวอักษร ไอคอล รูปแบบการทำงานต่างๆ ที่ปรับให้มีการใช้งานที่ดูเรียบง่ายและสะดวกต่อการใช้งานที่มากขึ้น ง่ายต่อการเรียกดูสิ่งต่างๆ แล้วยังปรับให้เหมาะกับการใช้งานมือเดียว มากขึ้น

 ความแต่ต่างระหว่าง One ui กับ Samsung Experience

1.Nofitication การแจ้งเตือน
 

- ตอบข้อความจากแถบแจ้งเตือนได้เลย
- โชว์รูปภาพของคนที่แชทในแถบแจ้งเตือนด้วย
- กดปิดการแจ้งเตือนของแต่ละแอปได้จากแถบเลย

2.Samsung Keyboard (เเป้นพิมพ์ ของ Samsung)

- Emoji แบบใหม่ที่มีขนาดใหม่ และมีรูปแบบที่น่ารัก ดูดีกว่าเดิม

- Adaptive Theme Keyboard เปลี่ยนสีคีย์บอร์ดให้เข้ากับสีของแอปโดยอัตโนมัติ (ที่คีย์บอร์ดกดเลือกที่เมนูตั้งค่ารูปเฟือง > Keyboard layout and feedback >
Keyboardthemes > Adaptive theme )
- Floating keyboard คีย์บอร์ดลอย กดเลือกเพื่อหดคีย์บอร์ดลงแล้วลากไปไว้ตรงไหนของจอก็ได้ (กดปุ่ม 3 จุด ที่คีย์บอร์ด > Modes > Floating keyboard)
ตั้งค่าการสัมผัสและการกดค้างได้เอง (กดที่รูปเฟือง > Smart Typing > Keyboard touch and hold delay)

3.DEVICE CARE

- การตั้งค่า Performance Mode (ปรับความละเอียด, แสงสว่างหน้าจอ, ประสิทธิภาพ CPU ฯลฯ) เอาเข้าไปรวมอยู่ใน Power mode
- เอาการตั้งค่า Edge panel สำหรับ Device maintanance ออกไปแล้ว

4.ALWAYS ON DISPLAY (เฉพาะรุ่นที่รองรับ)
- เพิ่มนาฬิกาแบบใหม่
- เพิ่มข้อมูลเวลาที่ต้องใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ เอาไว้ที่หน้า Always on display
- ตั้งให้ Always on display โชว์ไว้ตลอดเวลาหรือจะให้โชว์เป็นเวลา 30 วินาที เมื่อแตะที่หน้าจอ

5.Setting (ตั้งค่า)

- เปลี่ยนรูปแบบการจัดวางใหม่ ให้หาง่ายขึ้น

6.Samsung DeX (เฉพาะรุ่นที่รองรับ)
- ใช้มือถือได้อิสระ ในขณะที่เปิดโหมด DeX กับจอนอก
- แค่เสียบสาย USB Type – C เข้ากับจอนอก ก็สามารถใช้งาน DeX ได้เลยโดยไม่ต้องมี DeX Dock

7.Bixby (เฉพาะรุ่นที่รองรับ)
- ปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้น
- ปัดจากหน้า Bixby ไปทางซ้ายเพื่อดูฟีเจอร์ใหม่ๆ และแอปที่รองรับ
- ตั้งค่าปุ่มเรียก Bixby ได้ว่าจะให้กดครั้งเดียวเพื่อเรียก หรือกดติดต่อกัน 2 ครั้ง

8.Phone (โทรศัพท์)
- เลือกดูประวัติการโทรได้ตามวันที่
- บันทึกประวัติการโทรได้ถึง 2,000 ครั้ง (จากเดิม 500 ครั้ง)

9.Contact (รายชื่อ)
- เมนูรายชื่อผู้ติดต่อแบบใหม่ที่ดูง่ายกว่าเดิม

10.Gallery
- การแต่งภาพด้วย Photo Editor Pro สามารถทำได้จาก Gallery ได้โดยไม่ต้องออกจากแอปก่อน

11.My files

- เพิ่มโหมดสอดส่องหน่วยความจำเข้ามาให้จัดการพื้นที่ได้ง่ายๆ
- ซ่อนหรือโชว์โฟลเดอร์จากหน้า Home ของแอป My File ได้ (กดปุ่ม 3 จุด > Settings > Edit My Files home)

12.Samsung Health
-โชว์จำนวนก้าวเดินของแต่ละวันบน Notification และสามารถกดปิดการแจ้งเตือนได้จากแถบนั้นได้เลย

13.Navigator bar (แถบการนำทาง)

- Navigator bar รูปแบบใหม่
- ความสามารถ Navigator bar เพิ่มขึ้น ในแต่ละปุ่ม
-- recent app จากเดิมดูแอฟฯ ที่เปิืดค้างไว้ แต่เพิ่มเข้ามาใหม่ คือ เมื่อกด 2 ครั่งติดกันจะทำการเรียกใช้งาน Multi Window โดยเลือกเอาจาก 2 แอฟ ที่เปิดไว้ล่าสุด
-- home จากเดิมมีไว้เพื่อปิด แอฟฯ แล้วแสดงเป็น หน้า home แล้วเมื่อกดค้าง จะทำการเรียกใช้งาน google assistant แต่เพิ่มเข้ามาใหม่ เมื่อกด Home ค้าง แล้ว
สามารถ สลับแอพที่เปิดไว้ได้

14.App switcher

- ปรับวิธีการปิด แอฟที่เปิดค้างไว้ โดยการปัด ขึ้น - ลง แทนปัด ซ้าย - ขวา

15.APP PAIR (เฉพาะรุ่นที่รองรับ)

- ปรับวิธีการเรียกใช้งานเเบบใหม่ โดยการย้ายไปอยู่ที่ Apps Edge แทน

16.Quick Setting

- ปรับวิธีการเรียกใช้งาน ที่ง่าย แล้ว รวดเร็วกว่าเดิม

17.S-Pen (เฉพาะรุ่นที่รองรับ)
- สามารถใช้ S-Pen ด้ามอื่นที่ไม่ได้มากับตัวเครื่อง เขียนแทนกันได้แล้ว

18.Samsung Pay (เฉพาะรุ่นที่รองรับ)
- เรียกใช้งานได้จากเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง

19.บันทึกหน้าจอ

- แคปหน้าจอยาว

20.การใช้งานมัลติวินโดว์

- มีการปรับการเรียกใช้งานมัลติวินโดว์ใหม่

21.ฟีเจอร์อื่นๆ

- โหมด Lift to wake เปิดหน้าจออัตโนมัติเมื่อยกเครื่องขึ้นมา (Settings > Advanced features > Motions and gestures > Lift to wake)
- เข้าโหมด Kids Home ได้จากแถบ Settings ด้านบน (โหมดใช้งานสำหรับเด็ก เน้นเฉพาะแอปไร้พิษภัย และต้องใช้รหัสผ่านหากต้องการออกจากโหมดนี้)
- Call Stickers ไม่มีให้ใช้แล้ว
- รองรับไฟล์ภาพแบบ HEIF
- เพิ่มระบบเสียง Dolby Atmos (สำหรับหูฟัง)
- กล้องคู่ที่มี Scene Optimizer มาแบบอัตโนมัติ

ส่วนที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ใน One Ui
1.เข้าถึงง่ายกว่าเดิมสำหรับการใช้งานมือเดียว
2.สบายตาและประหยัดพลังงานขึ้นด้วย NIGHT MODE

3.หมุนหน้าจอ

- สามารถตั้งค่าได้เลยที่วิดีโอ โดยไม่ต้องเข้าไปตั้งค่า Quick Setting